การดำเนินคดีอาญากับ “ผู้ป่วยจิต” ต้องผ่านกระบวนการตรวจพิสูจน์ทางนิติจิตเวช
ความรับผิดอาญาของ "คนบ้า"
1.️กระทำความผิดขณะ "บ้า" + "เป็นคนบ้าจริง" = ไม่ต้องรับโทษ และนำตัวไปรักษาอาการทางจิต
2.️กระทำความผิดขณะ "บ้า" + "เป็นคนบ้าบางเวลา" = รับโทษ แต่ศาลจะลดโทษให้ก็ได้
ลักษณะแบบไหนที่กฎหมายถือว่า "บ้า"
"คนบ้า"
• ไม่รู้ผิดชอบชั่ว-ดี
• บังคับการกระทำและจิตใจตัวเองไม่ได้
• สติฟั่นเฟือน ป่วยจิต"คนบ้าบางเวลา"
• รู้ผิดชอบชั่ว-ดีอยู่บ้าง
• บังคับการกระทำและจิตใจตัวเองได้บ้าง
• สติไม่ฟั่นเฟือน
ผู้กระทำความผิดต้องตรวจพิสูจน์ทางนิติจิตเวชว่า “บ้าจริง” หรือ “แกล้งบ้า” ทั้งก่อนและหลังการพิจารณาลงโทษ
1.ถ้ามีเหตุเชื่อว่า “บ้า” ตำรวจ อัยการ และศาลนำตัวผู้กระทำความผิดไปตรวจพิสูจน์ทางนิติจิตเวช
2.ผลตรวจพิสูจน์ทางนิติจิตเวชระบุว่า “บ้าจริง”ศาลประเมินความสามารถในการต่อสู้คดี
3.คนบ้าที่ “ต่อสู้คดีได้”นำตัวไปรักษาอาการทางจิตที่โรงพยาบาล
4.ขณะที่ “รักษาอาการทางจิตอยู่”ให้ประเมินความสามารถในการต่อสู้คดี(ซ้ำ)
5.คนบ้า “ต่อสู้คดีได้”นำตัวกลับเข้าสู่กระบวนการพิจารณาและลงโทษตามกฎหมาย
ความรับผิดอาญาของ "คนบ้า"
1.️กระทำความผิดขณะ "บ้า" + "เป็นคนบ้าจริง" = ไม่ต้องรับโทษ และนำตัวไปรักษาอาการทางจิต
2.️กระทำความผิดขณะ "บ้า" + "เป็นคนบ้าบางเวลา" = รับโทษ แต่ศาลจะลดโทษให้ก็ได้
พิพากษาศาลฎีกาที่ 1086/2530 https://deka.in.th/view-25563.html
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 530/2542 https://deka.in.th/view-13685.html
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 809/2548 https://deka.in.th/view-266456.html
--------------------------------------------------------------------------
ข้อมูล : ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 14
ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 48, 65, 66
CR : กรมสุขภาพจิต
ปรึกษาปัญหาสุขภาพจิต : กรมสุขภาพจิต สายด่วน
ที่มา: สำนักงานกิจการยุติธรรม